More

    ย้อนรอยมหาอุทกภัย 5 เหตุการณ์ น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์อุดรธานี

    จังหวัดอุดรธานี ในฐานะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการคมนาคมที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้เผชิญกับความท้าทายจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นซ้ำซากตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา การที่จังหวัดต้องเผชิญกับน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องนี้ ไม่ใช่เพียงเหตุการณ์เฉพาะกิจ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องอาศัยการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง บทความนี้จะพาทุกท่านย้อนรอยเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงในจังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2567) โดย หมากแข้ง ขอคัดเลือก 5 เหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุด พร้อมวิเคราะห์สาเหตุ ผลกระทบ และแนวทางการรับมือแก้ไข เพื่อเป็นบทเรียนสำคัญในการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของเมืองอุดรธานี การที่หน่วยงานต่างๆ มีการวางแผนและดำเนินการรับมืออย่างเป็นระบบมากขึ้นในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการในการจัดการภัยพิบัติที่เปลี่ยนจากเชิงรับเป็นเชิงรุกมากขึ้น
    5 เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สุดในอุดรธานี (เรียงตามความเสียหาย)
    1. มหาอุทกภัยปี 2543-2544 (2000-2001): ความเสียหายระดับพันล้านบาท
    อุทกภัยครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมืองอุดรธานี โดยมีสาเหตุหลักมาจากฝนตกหนักต่อเนื่องยาวนานหลายวัน ส่งผลให้เกิดความเสียหายรวมประมาณ 2,572 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าความเสียหายที่สูงที่สุดที่ระบุในข้อมูล น้ำท่วมสูงถึงเกือบ 3 เมตรในบางพื้นที่ เช่น บริเวณบ้านจั่น ทำให้พื้นที่เศรษฐกิจใจกลางเมือง (เช่น บริเวณ 5 แยก) จมบาดาล รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือและรถบรรทุกทหารในการขนส่งผู้คนและให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิต 3 รายในจังหวัดอุดรธานีจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2544 และโรงพยาบาลอุดรธานีได้รับผลกระทบจนต้องมีการขนย้ายผู้ป่วย
    ในการรับมือ กองทัพอากาศ (ทอ.) ได้เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ระหว่างวันที่ 12-23 กรกฎาคม 2543 โดยจัดกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ และยานพาหนะจำนวนมาก มีการสร้างคันกั้นน้ำด้วยถุงทรายบริเวณถนนโพธิ์ศรี และซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำบ้านจั่นด้วยถุงทรายจำนวนมาก พร้อมดำเนินการตัดสันเขื่อนเพื่อช่วยในการเร่งระบายน้ำ การที่ต้องมีการซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำบ้านจั่นและถึงขั้นต้อง “ตัดสันเขื่อนเพื่อช่วยในการเร่งระบายน้ำ” ชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานการบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่มหาศาลได้ ส่งผลให้ความเสียหายรุนแรงและกินเวลานานขึ้น นี่คือบทเรียนสำคัญที่นำไปสู่การทบทวนและปรับปรุงระบบในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการขนย้ายสิ่งของประชาชนและผู้ป่วย จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการตรวจรักษา แจกจ่ายยารักษาโรค เสบียงสนาม และอาหารกล่อง รวมถึงฟื้นฟูสภาพพื้นที่เขตเทศบาลด้วยการตัดต้นไม้และทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ และใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกจากกองบิน 23 ตลอด 24 ชั่วโมง
    2. อุทกภัยปี 2554 (2011): น้ำท่วมนานนับเดือนและโครงสร้างพื้นฐานเสียหาย
    อุทกภัยในปี 2554 เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องและอิทธิพลของพายุ “นกเต็น” ปัจจัยสำคัญอีกประการคือการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงในปริมาณมากถึง 8-9 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลายน้ำ หลายพื้นที่ในอุดรธานีจมบาดาล โดยเฉพาะที่บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง น้ำท่วมนานเกือบหนึ่งเดือน ถนนหลายสายในเขตเทศบาลจมน้ำ และบ้านเรือนกว่า 300 หลังคาเรือนในบ้านท่าตูม อุดรธานี ถูกน้ำท่วมและถูกตัดขาดจากโลกภายนอก นอกจากนี้ คอสะพานห้วยโซ่ยังขาดจากกระแสน้ำที่รุนแรง และมีผู้เสียชีวิต 1 รายจากอิทธิพลของพายุ “นกเต็น” เหตุการณ์นี้ยังนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบ
    ในการรับมือ มีการติดตั้งสะพานแบริ่งเพื่อแก้ไขปัญหาคอสะพานห้วยโซ่ที่ขาด จังหวัดอุดรธานีมีการประชุมเร่งด่วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม และหน่วยงานทหาร (มทบ.24) เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ถูกตัดขาด ที่น่าสนใจคือ รัฐบาลในขณะนั้นได้เสนอ “อุดรโมเดล” ให้กรมชลประทานนำไปปรับใช้แก้ปัญหาน้ำท่วมทั่วประเทศ รวมถึงการแก้ปัญหาสุขภาพในช่วงน้ำท่วม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์อุทกภัยในปี 2554 ของอุดรธานีมีความสำคัญเกินกว่าแค่ภัยพิบัติในท้องถิ่น แต่เป็นกรณีศึกษาที่ส่งผลต่อการวางแผนและนโยบายการบริหารจัดการน้ำของชาติ สะท้อนถึงบทเรียนที่สำคัญและผลกระทบที่กว้างขวางของเหตุการณ์นี้
    3. อุทกภัยปี 2540 (1997): ผลกระทบจากพายุใหญ่ระดับประเทศ
    อุทกภัยครั้งนี้เกิดจากอิทธิพลของพายุ “ลินดา” ในเดือนพฤศจิกายน 2540 ซึ่งเป็นพายุที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในระดับประเทศ พายุลินดาสร้างความเสียหายรวมทั่วประเทศกว่า 1,961 ล้านบาท และมีผู้เสียชีวิตรวม 26 ราย แม้ข้อมูลเฉพาะของอุดรธานีจะจำกัด แต่การเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ระดับชาตินี้บ่งชี้ถึงผลกระทบที่สำคัญต่อจังหวัด การขาดข้อมูลความเสียหายที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอุดรธานีในปี 2540 แม้จะเกิดพายุใหญ่ระดับประเทศอย่าง “ลินดา” สะท้อนถึงข้อจำกัดของข้อมูลในอดีต อย่างไรก็ตาม ขนาดความเสียหายระดับชาติที่สูงมากบ่งชี้ว่าอุดรธานีซึ่งอยู่ในภาคอีสานย่อมได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะไม่ได้ระบุเป็นตัวเลขชัดเจนก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีรายงานเหตุการณ์ผู้เสียชีวิต 2 รายจากการถูกไฟดูดในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงเวลาใกล้เคียง (ข้อมูลระบุวันที่ 16 ก.ค. 2568 ซึ่งคาดว่าเป็นการพิมพ์ผิดและอาจหมายถึงปี 2540 หรือปีใกล้เคียงที่มีเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน) เหตุการณ์ไฟดูดเสียชีวิตที่ปรากฏในข้อมูล หากเกิดขึ้นในปีนี้จริง ก็เป็นผลกระทบโดยตรงที่รุนแรง
    4. อุทกภัยปี 2566 (2023): ความเสียหายมหาศาลต่อภาคเกษตรกรรม
    อุทกภัยในปี 2566 มีสาเหตุหลักมาจากอิทธิพลของพายุ “ตาลิม” (Talim) ในช่วงเดือนสิงหาคม และร่องลมมรสุมร่วมกับหย่อมความกดอากาศต่ำในช่วงเดือนกันยายน ส่งผลให้น้ำท่วมหลายอำเภอ และถนนมิตรภาพบางส่วนต้องปิดการจราจร ภาคเกษตรกรรมได้รับความเสียหายอย่างมหาศาลและมีรายละเอียดชัดเจน โดยข้าวเสียหายรวม 6,702 ไร่จากพายุตาลิม และคาดว่าจะเสียหายอีก 38,504.83 ไร่จากร่องมรสุม ครอบคลุมพืชผัก มันสำปะหลัง และไม้ยืนต้นใน 15 อำเภอ ด้านประมง บ่อปลาได้รับผลกระทบรวม 2,540 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 2,286.50 ไร่ ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร 1,974 ราย ส่วนปศุสัตว์ เกษตรกร 32 รายได้รับผลกระทบ สัตว์เลี้ยง (ไก่พื้นเมือง 375 ตัว, เป็ดเทศ 15 ตัว) ตาย/สูญหาย และมีการอพยพสุกร 21 ตัว เนื่องจากขาดแคลนอาหารสัตว์ มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน 14 อำเภอ ด้วยวงเงินให้ความช่วยเหลือด้านพืชผลจากพายุตาลิมรวม 8.98 ล้านบาท และประมาณการวงเงินให้ความช่วยเหลือด้านประมง 10.88 ล้านบาท ข้อมูลความเสียหายที่ละเอียดและเป็นตัวเลขชัดเจนในภาคเกษตรกรรม ประมง และปศุสัตว์ในปี 2566 ชี้ให้เห็นว่าอุทกภัยไม่ได้ส่งผลกระทบแค่พื้นที่เมือง แต่ยังเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของเกษตรกรในอุดรธานีอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการวางแผนป้องกันและฟื้นฟูในอนาคต
    ในการรับมือ มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อเร่งเยียวยา โครงการชลประทานอุดรธานีและสำนักงานชลประทานที่ 5 ได้เร่งระบายน้ำในพื้นที่เกษตรและชุมชน โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 7 เครื่อง และมีการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการเยียวยาเกษตรกร
    5. อุทกภัยปี 2567 (2024): ความเสียหายเฉพาะจุดและประเด็นความปลอดภัย
    อุทกภัยในปี 2567 เกิดจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ข้อมูล ณ วันที่ 17 กันยายน 2567 ระบุว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบใน 5 อำเภอ 12 ตำบล 34 หมู่บ้าน และ 42 ครัวเรือนในอุดรธานี แม้รายงานเบื้องต้นจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะไม่ระบุผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเฉพาะในอุดรธานีสำหรับเหตุการณ์นี้ แต่มีรายงานข่าวแยกต่างหากเกี่ยวกับเหตุการณ์ฝนตกหนักน้ำท่วมถนนหลายสายในอุดรธานี และมีชาวบ้าน 2 รายถูกไฟดูดเสียชีวิต (ข้อมูลระบุวันที่ 16 ก.ค. 2568 ซึ่งคาดว่าเป็นการพิมพ์ผิดและอาจหมายถึงปี 2567 ซึ่งเป็นปีปัจจุบันที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม) การเสียชีวิตจากการถูกไฟดูดที่ปรากฏในข่าว แม้จะมีความคลาดเคลื่อนเรื่องวันที่ แต่เป็นประเด็นที่สำคัญและเกิดขึ้นซ้ำซากในสถานการณ์น้ำท่วมเมืองอุดรธานี ซึ่งชี้ให้เห็นถึงอันตรายแฝงในโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าที่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน และเป็นความกังวลหลักของประชาชนที่ต้องการให้มีการตรวจสอบและรับผิดชอบ
    ในการรับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว มีการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน และจังหวัดอุดรธานีมีการประชุมสรุปผลและถอดบทเรียนการป้องกันและแก้ไขอุทกภัยปี 2567 เพื่อวางแนวทางสำหรับปี 2568-2572
    สาเหตุและแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว: บทเรียนเพื่ออนาคต
    สาเหตุร่วมของน้ำท่วมใหญ่ในอุดรธานีประกอบด้วย ปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นและความรุนแรงของพายุ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาการระบายน้ำไม่ทันและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เนื่องจากการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ สิ่งกีดขวางในคูคลอง และการจัดการน้ำที่คาบเกี่ยวกันระหว่างหน่วยงานท้องถิ่น การบริหารจัดการน้ำในแหล่งกักเก็บ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยหลวง ที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ปลายน้ำเมื่อปริมาณน้ำเกินความจุ การขยายตัวของเมืองที่ทำให้โครงสร้างพื้นฐานเดิมไม่สามารถรองรับการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วได้ และปัญหาซ้ำซากในพื้นที่เสี่ยง โดยมีการระบุพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากกว่า 76 จุดใน 16 อำเภอ การระบุว่ามี “พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก” กว่า 76 จุด และปัญหาการระบายน้ำที่ “คาบเกี่ยวระหว่างหน่วยงาน” ชี้ให้เห็นว่าอุทกภัยในอุดรธานีเป็นปัญหาที่ซับซ้อน ไม่ได้เกิดจากปัจจัยทางธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงความท้าทายด้านการวางผังเมือง การบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐาน และการประสานงานระหว่างหน่วยงาน
    แนวทางการรับมือและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนจึงต้องเป็นการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ โดยจังหวัดอุดรธานีให้ความสำคัญกับการวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยแบบบูรณาการ มีแผนเผชิญเหตุและเตรียมความพร้อมบุคลากรและเครื่องจักร มีการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องด้วยการขุดลอกคูคลอง กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ วัชพืช และขยะ รวมถึงปรับปรุงแหล่งกักเก็บน้ำและสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็กใหม่ในเขตเมือง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกลและเครื่องจักรกลสาธารณภัยในพื้นที่เสี่ยง ด้านการวางผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน มีการผลักดันให้สร้างโครงข่ายพื้นที่สีเขียวที่เชื่อมกับแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่หน่วงน้ำ และควรมีการวางและจัดทำ “ผังพลวัต” ในระบบผังเมืองไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในพื้นที่เสี่ยงต่ออุทกภัย พร้อมตรวจสอบและปรับปรุงความมั่นคงแข็งแรงของสถานที่กักเก็บน้ำ นอกจากนี้ ยังเน้นการแจ้งเตือนและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทิ้งขยะให้ถูกที่ และจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชนเมือง ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทระดับประเทศที่ขับเคลื่อนโครงการสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ ผันน้ำ และป้องกันน้ำท่วมในภาพรวม
    สรุปและข้อคิด: อุดรธานีพร้อมรับมืออนาคต
    ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา จังหวัดอุดรธานีได้เรียนรู้จากบทเรียนในอดีตและพัฒนากลไกการรับมือกับอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การช่วยเหลือเฉพาะหน้าไปจนถึงแผนบริหารจัดการน้ำระยะยาวที่ครอบคลุมและบูรณาการมากขึ้น ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐทุกระดับ องค์กรปกครองส่วน
    ขอขอบคุณภาพถ่ายของ อจ.สุพจน์ สกุลแก้ว
    Cr.ภาพโดย อจ.สุพจน์ สกุลแก้ว

    ข่าวล่าสุด

    spot_img

    ช่าวน่าสนใจ

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า